วิทยุนปช. ยูเอสเอ
Monday, December 21, 2015
Saturday, December 5, 2015
เตียง ศิริขันธ์ : วีรบุรุษที่ประวัติศาสตร์ไทย(แกล้ง)ลืม
จึงเป็นคำถามที่คำตอบอาจอยู่แต่ในสายลม-ถึงที่สุดแล้ว ประชาชนเป็นใหญ่จริงหรือ กับระบอบประชาธิปไตยในบ้านเมืองเรา ย้อนหลังจากวันนี้ไป 101 ปี ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2452 วีรบุคคลผู้ที่เหมือนว่าหน่วยงานเกี่ยวกับการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยไม่อยาก จะจดจำจารึกไว้ให้เยาวชนเรียนรู้ ถือกำเนิดเกิดขึ้นบนแผ่นดินอีสาน บุคคลผู้นั้นชื่อ "เตียง ศิริขันธ์"
Laly Jil - ตามมาดูรายได้ของนายพลไทย
Laly Jil - ตามมาดูรายได้ของนายพลไทย
เงินเดือนของทหารขั้นสูงสุดคือ 76,604 บาทต่อเดือน
และเงินประจำตำแหน่งสูงสุด คือ 21,000 บาท
นั่นคือทหารที่ได้รับเงินตอบแทนต่อเดือนสูงสุดในยศ พลเอก อัตราจอมพล ก็คือ ได้รับ 97,604 บาท (เก้าหมื่นเจ็ดพันหกร้อยสี่บาท) ต่อเดือน ถ้าไม่กินไม่ใช้เลย ก็คือปีหนึ่ง จะได้รับค่าจ้าง 1,171,248 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหนึ่งพันสองร้อยสี่สิบแปดบาทถ้วน)
ตีเป็นตัวเลขกลมๆ ก็คือ ปีละประมาณ ล้านสอง การที่ทหารคนหนึ่งจะได้เงินเดือนและเก็บเงินได้ครบสามสิบล้านบาท ก็คือใช้เวลาเป็นพลเอกอัตราจอมพล เป็นเวลา ประมาณสามสิบปี
ซึ่งไม่มีทางที่จะมีทหารคนไหนจะทำแบบนี้ได้เพราะกว่าจะขึ้นมาขนาดนี้ได้ก็ ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าสามสิบห้าปีที่มีเงินเดือนน้อยกว่านี้
Friday, December 4, 2015
พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา องคมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา
"พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา"องคมนตรี ถึงแก่อสัญกรรม
updated: 05 ธ.ค. 2558 เวลา 11:00:55 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา องคมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา ด้วยวัย 96ปี เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.เช้าวันนี้ โดยกำหนดตั้งศพสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล ที่ศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กทม. ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมเป็นต้นไป และมีพิธีรดน้ำศพในวันที่ 7 ธันวาคม เช่นกัน
สำหรับ พล.ต.อ.สิทธิ เศวตศิลา เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2462 ปัจจุบันเป็นองคมนตรี อดีตรองนายกรัฐมนตรีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีต เลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
Thursday, December 3, 2015
แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เรื่อง โครงการอุทยานราชภักดิ์
ต้องพิสูจน์กันหน่อยแล้ว โกงจริง โกงไม่จริง จริงไม่โกง โกงแน่จริง
"วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์"เล่าเบื้องหลังไทยสอบตกมาตรฐาน"ไอซีเอโอ"
| |
"วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์"เล่าเบื้องหลังไทยสอบตกมาตรฐาน"ไอซีเอโอ"วันที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 08:45:25 น. http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427936109
|
ถ้าพฤติกรรมของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์คือทุจริต อีกสองมูลนิธิที่จะกล่าวต่อไปนี้ มีพฤติกรรมปล้นประชาชน
Arkom Sydney added 2 new photos.
ถ้าพฤติกรรมของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์คือทุจริต อีกสองมูลนิธิที่จะกล่าวต่อไปนี้ มีพฤติกรรมปล้นประชาชน
มูลนิธิชัยพัฒนาก่อตั้งเมื่อ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2531 โดยมีภูมิพลดำรงตำแหน่งนายกมูลนิธิ สิรินธรดำรงตำแหน่งประธานบริหารมูลนิธิและนายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นเลขาธิการมูลนิธิ มูลนิธิชัยพัฒนาเป็นที่มาของ "โครงการอันสืบเนื่องมาจาก "พระราช ดำริ" ที่มีโครงการมากกว่าสี่พันโครงการ (โครงการปล้นกลางแดด) แต่ละโครงการมีพ่อค้า นักธุรกิจ คหบดีตลอดจนหน่วยงานราชการและองค์กรต่างๆทุกภาคส่วนเปิดรับบริ จาค เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยที่ทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประเทศไทยกลายเป็นกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลก ทุกโครงการจะได้รับยกเว้นการเสียภาษีและไม่มีใครตรวจสอบได้ ( โครงการที่คิดขึ้นมามากมายด้วยจุดประสงค์ในการหาปล้นเงินประชาชนให้ กษัตริย์)
ส่วนมูลนิธิรัฐบุรุษ มีเปรมเป็นประธาน ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2526 จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2535 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 6 รอบ มีบุคคลหลายวงการได้มอบเงินให้พล.อ.เปรม เพื่อตั้งกองทุนสำหรับเป็นรางวัลผู้กระทำความดี ซื่อสัตย์สุจริต และจงรักภักดีต่อแผ่นดิน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น"มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" มูลนิธิแห่งนี้ก็ไม่เคยมีใครกล้าแตะต้องหรือตรวจสอบรายได้จากการบริจาคเช่น เดียวกับมูลนิธิชัยพัฒนา ต่างกันที่คนหนึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่รายหลังมีรายได้มหาศาล จนสามารถสร้างความอื้อฉาวในการเลี้ยงเด็กหนุ่มมากหน้าหลายตาไว้สำหรับปรน เปรอ โดยเฉพาะหนุ่มนักร้องที่มีข่าวว่าจุนเจือไปนับพันล้านบาท นี่ล้วนแล้วแต่ผลงานความสัตย์ซื่อที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและจริยธรรมอันจอม ปลอมที่ไร้ยางอายของ "เปรม ทดแทนบุญคุณแผ่นดิน"
ถ้าหากมีการกล่าวหาว่าโครงการของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์มีการทุจริต โกงกินเงินส่วนต่างของการก่อสร้างแต่อย่างน้อยที่สุดก็ยังมีสิ่งปลูกสร้าง ให้ได้เห็นอยู่บ้าง และก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสมบัติของชาติของประชาชน เพียงแต่เป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีราคาแพงเกินจริง ซึ่งเทียบกันไม่ได้เลยกับมูลนิธิชัยพัฒนาของภูมิพลและมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เพราะมูลนิธิปล้นประชาชนทั้งสองนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะเหลือให้ประชาชนได้เห็น นอกจากประธานมูลนิธิหนึ่งได้ชื่อว่า "เป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก" และประธานอีกมูลนิธิหนึ่ง ได้ชื่อว่าร่ำรวยล้นฟ้ามีเงินปรนเปรอชายหนุ่มมากหน้าหลายตาที่ฟุ่มเฟือย ที่สุดในโลก.....พี่น้อง คนไทยที่รัก ผมว่าความผิดของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์มีความเลวอยู่บ้าง แต่คงไม่ถึงขั้นระยำเท่ากับมูลนิธิปล้นประชาชนทั้งสองอย่างแน่นอนครับ(โปรด ติดตามการทุจริตโกงกินที่ทำร้ายจิตใจคนไทยที่สุดในตอนต่อไป)
สมาพันธ์ตรวจสอบรัฐไทย แจ้งจับทูต US กรณีวิจารณ์ ม.112 ด้าน นปช. ยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลหยุดคุกคามและยุยงปลุกปั่นประชาชน
สมาพันธ์ตรวจสอบรัฐไทย แจ้งจับทูต US กรณีวิจารณ์ ม.112 ด้าน นปช. ยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลหยุดคุกคามและยุยงปลุกปั่นประชาชน
ที่กองบังคับการปราบปราม นายสนธิยา สวัสดี ตัวแทนสมาพันธ์ตรวจสอบรัฐไทย ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษนายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย กรณีแสดงความเห็นวิจารณ์กฎหมายอาญามาตรา 112
หนังสือดังกล่าวมุ่งหมายให้พนักงานสอบสวนถอดเทปถ้อยแถลงดังกล่าว พร้อมตรวจสอบความบริสุทธิ์ใจของผู้จัดการ โดยหากมูลความผิดตามบทบัญญัติกฎหมายอาญามาตรา 112 ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อไป
ก่อนหน้านี้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯได้แสดงความกังวลต่อบัญญัติดังกล่าว พร้อมยืนยัน การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติไม่ควรถูกจำคุก ต่อมาประชาชนจำนวนหนึ่งนำโดยพระพุทธอิสระ เข้ายื่นหนังสือคัดค้านท่าทีดังกล่าว
อีกด้านหนึ่งแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลยุติคุกคามแกนนำ นปช. และประชาชนทั่วไป ยืนยันการกระทำดังกล่าวไม่มีความชอบธรรม ขัดรัฐธรรมนูญ เรียกร้องขอผ่อนคลายท่าที
ขณะที่พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมุ่งมั่นสร้างความสงบเรียบร้อย และเสถียรภาพ และให้สิทธิเสรีภาพต่อประชาชนอย่างเสมอภาค หากไม่กระทบต่อส่วนร่วม
นอกจากนี้รัฐบาลไม่สามารถให้คนบางกลุ่มมีอิสระที่จะสร้างความวุ่นวาย ปั่นป่วน ปลุกระดม อันจะเกิดความไม่สงบในประเทศได้ พร้อมเรียกร้องนปช. คิดถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก
บิ๊กตู่ ลั่น บิ๊กโด่ง เป็นน้องชายโตมาด้วยกัน ถ้าผิดก็ยอมรับ
[?]19 ชีวิต บริสุทธิ์ พนักงานกรุงไทย ที่ต้องถูกจำคุก ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกว่า 10 ปี!!
Wednesday, December 2, 2015
เผด็จการทหารพระราชาไทย กำลังช่วยจีนข่มขืนประเทศไทย
Tuesday, December 1, 2015
ป.ป.ช.ไม่พบทุจริต′ราชภักดิ์′ !!!!
ป.ป.ช.ไม่พบทุจริต′ราชภักดิ์′ ยังไม่รับ ไต่สวนปม′ราชภักดิ์′ รอ3 หน่วยงานส่งผลสอบ ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริต ยังไม่ตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง เพราะยังไม่มีเหตุอันพึงสงสัย นาย สรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากเดิมที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติให้สำนักงานป.ป.ช.รวบรวมข้อมูลที่ เกี่ยวข้องกับโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์โดยตนมอบให้สำนักการข่าวและ กิจการพิเศษของสำนักงานป.ป.ช.ไปรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานภาครัฐ และประชาชนซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลในภาพรวมยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการ ทุจริตแต่ในส่วนของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. ได้ตรวจพบว่ามีการใช้งบกลางของรัฐบาลในการจัดสร้างกว่า 63 ล้านบาท เป็นหน้าที่สตง.ที่จะตรวจที่มาที่ไปของเงิน ขณะเดียวกันได้มีผู้ที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวได้ไปร้องทุกข์กองบังคับการปราบปรามในวันที่24 พ.ย.ที่ผ่านมาและทางกระทรวงกลาโหมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการจัดสร้างเช่นกัน ทางป.ป.ช.เห็นว่ามีหน่วยงานที่ตรวจสอบแล้วจึงมีมติให้สำนักงานป.ป.ช.ติดตามผลการตรวจสอบของทั้ง 3 หน่วยงาน ว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าอยู่ขอบเขตอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบของป.ป.ช.ได้หรือไม่ ซึ่งทางป.ป.ช.จะเข้าไปตรวจสอบได้ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ สำหรับการตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงกับเรื่องที่สังคมให้ความสนใจนายสรรเสริญกล่าวว่า การจัดตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงต้องปรากฏว่ามีเหตุอันพึงสงสัย จึงจะเข้าหลักเกณฑ์ที่ป.ป.ช.จะรับเรื่องมาดำเนินการได้ และประชาชนที่มาร้องเรียนสามารถทำได้แต่ต้องดูว่าเข้าเกณฑ์ 3 ข้อ ของป.ป.ช.หรือไม่ ได้แก่ มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ มีเหตุอันพึงสงสัยหรือไม่ อยู่ในอำนาจของป.ป.ช.หรือไม่ และกล่าวหาใคร มีหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งหากอยู่ในหลักเกณฑ์ก็สามารถรับเรื่องมาดำเนินการได้ไม่ต้องรอผลจาก 3 หน่วยงานข้างต้น โดยในขณะนี้ยังไม่มีผู้มาร้องเรียน ส่วนที่กรณี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ออกมายอมรับว่ามีการหักค่าหัวคิวโรงหล่อจริง ขณะนี้ข้อมูลยังไม่มีเหตุอันพึงสงสัย เนื่องจากบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นเอกชน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนที่สำนักการข่าวป.ป.ช.พบว่าการประมูลต้นปาล์มราคากว่า 1 แสนที่แพงเกินจริงนั้น นายสรรเสริญ กล่าวว่า ยังเป็นเพียงข้อมูล เป็นหน้าที่คณะกรรมการของกระทรวงกลาโหมในการตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง | |
Tags : ราชภักดิ์ อุทยานราชภักดิ์ ป.ป.ช. | |
Saturday, November 28, 2015
มติชน: ขอนแก่นโมเดล ภาค 2 PLOT หลวม ไม่สมจริง
วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 07:33:14 น.
|
Thursday, November 26, 2015
WOW!! ศาลแพ่งพิพากษา ให้ “น.ส.แพรวา” และผู้ปกครองชดใช้ค่าเสียหายร่วม 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็
ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (26 พ.ย.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่ น.ส.สะโอด ซิมกระโทก และญาติของผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บ 4 คน จากอุบัติเหตุ น.ส.แพรวา หรือ อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถยนต์ซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารพลิกคว่ำ เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. 2553 ร่วมกันเป็นโจทก์รวม 28 คน ยื่นฟ้อง น.ส.แพรวา รวมทั้งบิดาและมารดา เรื่องกระทำละเมิด ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ศาลแพ่งพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีแพ่งที่สืบเนื่องมาจากคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีคำ พิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดว่าการขับรถของ น.ส.แพรวา เป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำละเมิด จึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และเมื่อรับฟังได้ว่า น.ส.แพรวา จำเลยที่ 1 กระทำผิด บิดา และมารดา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 ก็ไม่ได้นำสืบถึงความระมัดระวังในการดูแลจำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วย
พิพากษา ให้ น.ส.แพรวา บิดา และมารดาของ น.ส.แพรวา ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ประกอบด้วยค่าไร้อุปการะ และค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าอื่นๆ ให้กับโจทก์ร่วม รวม 28 คน ซึ่งเป็นครอบครัวของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บแต่ละคน ในจำนวนเงินแตกต่างกัน ตั้งแต่คนละ 4 พันบาท ถึง 1 ล้าน 8 แสนบาท รวมเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ภายหลัง พ.ต.อ.เอกศรัญ นิลวรรณ บิดาของ น.ส.สุดาวดี นิลวรรณ หนึ่งในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ศาลสั่งให้ชดใช้เงินประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนเงินที่เรียกร้องไป ซึ่งความเห็นของผู้เสียหายส่วนใหญ่เห็นว่าน้อยเกินไป แต่ก็เคารพคำตัดสินของศาล โดยจากนี้ทางกลุ่มทนายความของโจทก์จะประชุมหารือกันในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่ และหากยื่นอุทธรณ์จะยื่นในประเด็นใด ส่วนค่าสินไหมทดแทนที่ศาลสั่งจ่ายนั้นแตกต่างกันออกไป ทั้งค่าไร้อุปการะ, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าเดินทาง และค่าทุกข์ทรมานจากการรักษาอาการบาดเจ็บ และคาดว่าทางฝ่ายจำเลยจะมีการยื่นอุทธรณ์เช่นกันเพื่อยืดเวลาการจ่ายค่าเสีย หายออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีอาญาที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 ยื่นฟ้อง น.ส.แพรวา อายุ 17 ปี (ขณะเกิดเหตุ) ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาทจนเป็นเหตุในผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินเสียหาย นั้น ซึ่งคดีได้ถึงที่สุดแล้ว ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก น.ส.แพรวา 3 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 4 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี และห้ามขับรถจนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปี ซึ่ง น.ส.แพรวาได้ยื่นฎีกาสู้คดี แต่ศาลไม่รับฎีกา จึงทำให้คดีสิ้นสุดตามคำพิพากษาดังกล่าว
Monday, November 23, 2015
ข่าวลือเสี่ยโอโหดโฉดจริง (??) ศรีรัศมิ์ เป็นบ้าไปแล้ว แถมโดนขังที่บ้านราชบุรี เงินสองร้อยล้านก็ไม่ได้!!
Saturday, November 21, 2015
[?]ญี่ปุ่นคิดและปฏิบัติอย่างไรต่ออิสลาม
Friday, November 20, 2015
มหากาพย์ ราชฟัด เอ๊ย ราชภักดิ์
ฟ้า พรทิพา หรือเป็นกรรมที่ล้มรัฐบาลพลเรือนเพื่อเชิญทหารยึดบ้านเมือง!!
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1492196627748874&id=1429845097317361
น่าเห็นใจเธอนะ.โทรหากำนันรึยัง
ฟ้า พรทิพา ข่าวเพื่อประชาชน
19 นาที ·
อยากให้ทุกคนอ่าน..,ตอนนี้ช่วงเวลาตีสอง 43 นาที ที่ยังนอนไม่หลับ และยังสับสนที่จะสู้ต่อยังไง บอกตัวเองเสมอ เราเจ็บไม่ได้ตายไม่ได้ และล้มไม่ได้ มาวันนี้ชีวิตเหมือนล้มทั้งยืน เหมือนการทำดีไม่ได้ดี และทำให้เราท้อ แต่บอกตัวเองว่าถอยไม่ได้. เพราะมองหน้าหลานตัวน้อยที่นอนข่าง ๆ กับลูกอีกสามชีวิต ที่ยังรอความหวังจากแม่คนเดียวที่เป็นที่พึ่ง ชีวิตเหมือนละครน้ำเน่า ที่หลายคนอาจไม่เข้าใจ. มาวันที่ทหารบุกบ้าน บุกฟ้าให้ทีวี อ้อนวอนขอร้องจนหมดแรง ว่าอย่าเอาแขนขาครอบครัวเราไป. กว่าจะสร้างมันขึ้นมาได้ เลือดตาแทบกระเด็น มาวันนี้มันหายไปกับการรู้เท่าไม่ถึงการ ผลที่สุดเงินหมด ของถูกยึดไปหมด เพราะเพียงรายการเสียงเสรี ซึ่งเราไม่เคยเห็นด้วยกับการที่จะมาด่าทหาร หรือต่อต้านรัฐบาลทหาร แต่วันที่รายการออกพลาดที่เราไวใจไม่ได้เช็ครายการ ก่อนออกพอมาถึงวันนี้กลายเป็นคนผิด เหมือนถูกตัเแขนตัดขา เมื่อสองวันก่อนท้อถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย.... แต่ต้องหยุดความคิดและข้ามความทุกข์ในวันนั้นมาให้พ้น.., เพื่อแม่ที่แก่แล้ว และลูก 3 คนหลานรักอีก 1 คน ที่ต้องคอยลุกขึ้นชงนมให้กินทุกคืน... ถ้าเราตายไปพวกเขาเหล่านี้จะอยู่ยังไง แถมลูกน้องอีก 20 กว่าชีวิตที่รอความหวังว่าไม่ตกงาน. ชีวิตผู้หญิงตัวคนเดียวที่ต่อสู้ขีวิตมาทั้งชีวิต และสู้เคียงข้างมากับ พธม. กปปส. หลายครั้งที่เกือบตายเพราะกระสุนปืนและระเบิด ในการชุมนุม แต่ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว หมดเงินไปกับการชุมนุมมากมาย แต่มาวันนี้เวลาเราเดือดร้อน โทรหาใครผู้ใหญ่ก็บ่ายเบี่ยงในการช่วย เลยบอกตัวเองว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน..., ไม่โกรธรัฐบาลทหาร ไม่โกรธใคร แต่น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง...,แต่ไม่พ่ายแพ้ต่อชีวิตทร่เกิดขึ้น จะขอความเป็นธรรมจากสังคมและจาก รัฐบาลทการ เพราะคนคนนี้ต้องอยู่เพื่ออีกหลายชีวิต วิงวอนสังคมที่อาจเข้าใจผิด จงเข้าใจผู้หญิงนักสู้คนนี้ด้วยเถิด.., เขียนออกมาจากใจในยามค่ำคืนที่นอนไม่หลับเพราะความทุกข์หนัก กับการถูกทหารตัดแขนตัดขาไปรอบนี้....รักชาติ รักทหาร สิ่งที่ตัวเองพูดเสมอมา.,, แต่มาวันนี้ทหารบุกบ้าน มายึดของ เครื่องมือที่ทำมาหากินเลี้ยงคนหลายชีวิต มาจบสิ้นพายในพริบตา แถมตำรวจจับเข้าห้องขัง 1 คืน ถามว่าใจสู้ใหมสู้ แต่เงินสับสินหมดแล้ว ชีวิตจะเดินต่ออย่างไร ?
อยากให้ อ่าน ช้า ช้า สบายๆ ให้จบ
แผนลุกตอนที่ 3 วันที่ 20 พฤศจิกายน 2015
Thursday, November 19, 2015
หนังสือลับ ... สรุปรายนามผู้กระทำการทุจริต และผิดมาตรา 112 ประกอบด้วย....
Tuesday, November 17, 2015
Monday, November 16, 2015
||||||:- ดร.เพียงดิน รักไทย 2015-11-17 ชวนคิดชวนลุย ตอน ชนวนสงครามโลกครั้งที่สาม และสงครามกลางเมืองไทย??
Sunday, November 15, 2015
เด๋วนี้เป็นผู้แทนพระองค์มันง่ายจิมๆๆ อิ ๆ
ดร.เพียงดิน 15 พ.ย. 2558 ตอน "ภารกิจศักดิ์สิทธิ์ ที่ประชาชนอภิวัฒน์ ไม่มีทางแพ้"
||||||:- อ.ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ 15 พ.ย. 58 ปรับยุทธวิธี เพื่อ ยกระดับเงื่อนใขเปลี่ยนระบอบ
Saturday, November 14, 2015
แนวร่วมปัตตานียันต้องการรัฐเอกราช | เดลินิวส์ 27 สิงหาคม 2558
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/foreign/344472
Wednesday, November 11, 2015
เฟส เพจ กรุงเทพ กรุงเทพ เปิดรายชื่อ ครูฝึก 10 คน ที่รุมทำร้าย พลทหารวิเชียร เผือกสม อายุ 26 ปี จนเสียชีวิต
เฟส เพจ กรุงเทพ กรุงเทพ
เปิดรายชื่อ ครูฝึก 10 คน ที่รุมทำร้าย
พลทหารวิเชียร เผือกสม อายุ 26 ปี จนเสียชีวิต
ภาพแรกคือ ร้อยโท ภูริ เพิกโสภณ (ผู้ต้องหา)
ร้อยโท ภูริ เพิกโสภณ (ผู้ต้องหา)
ร้อยตรี โอม มาลัยหอม (จำเลยที่๑)
สิบเอก สุรศักดิ์ หรือ หรั่ง บุญเมือง (จำเลยที่๒)
สิบเอก กมล หรือ เด่น บัวทอง (จำเลยที่๓)
สิบเอก อาคม หรือ จิ๋ว จังหรีด (จำเลยที่๔)
พลทหาร ฐากูร หรือ แก็บ สมานุกร (จำเลยที่๕)
พลทหาร กิตติพงศ์ หรือ แม็ค โจ้งจาบ (จำเลยที่๖)
พลทหาร เกริกพันธ์ หรือ บอล แกล้วทนงค์ (จำเลยที่๗)
พลทหาร สมัย หรือ หมัย ไกรทิพย์ (จำเลยที่๘)
พลทหาร สาธร หรือ อ้อย เพชรจำรัส (จำเลยที่๙)
พลทหารวิเชียร เผือกสม เขาถูกครูฝึกนับ 10 คนรุมทำร้าย
โดยอ้างต้องลงโทษเพราะพยายามหลบหนี จากหน่วยฝึก 2 ครั้ง
ทั้งการตบหน้า บังคับให้กินพริกสด ลากตัวไปกับพื้นปูน ใช้เกลือทาที่บาดแผล เหยียบหน้าอก ใช้ผ้าขาวห่อตัวเหลือแต่หน้า พร้อมมัดตราสังข์เหมือนศพทั้งที่ยังมีชีวิต
เขายังถูกบังคับให้กินข้าวบนก้อนน้ำแข็ง วางก้อนน้ำแข็งทับหน้าอก
ถูกฟาดด้วยไม้ไผ่จนไม้ไผ่แตก 3 อัน ขาถูกแทงด้วยไม้ไผ่แหลม
ถูกเตะที่ชายโครง หน้าอก กระทืบท้ายทอยจนคางแตก
และเตะใบหน้าจนเลือดออกปาก
พยานในเหตุการณ์เล่าว่า พลทหารวิเชียรก้มลงกราบเท้าครูฝึก
และขอร้องให้หยุดทำร้าย แต่ครูฝึกยังไม่หยุด เสียงร้องอย่างเจ็บปวด สลับกับเสียงกระทืบ ดังจนร้อยโทผู้บังคับหน่วยฝึก ชะโงกหน้า จากอาคารชั้นบนมาดู และพูดว่าอย่าำแรงมากนัก
ครูฝึกจึงพาพลทหารวิเชียรไปทำร้ายต่อบริเวณอื่น หลังถูกรุมทำร้ายนาน 3 วัน พลทหารวิเชียรไตวาย เพราะกล้ามเนื้อบาดเจ็บรุนแรง และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลขณะอายุ 26 ปี
สภาพศพบวมช้ำทั้งตัวจนญาติแทบจำไม่ได้ คือการฆ่าทรมานกลางสถานที่ราชการ ต่อหน้าผู้บังคับหน่วยฝึก ข้าราชการ และทหารใหม่ไม่ต่ำกว่า 200 คน
ผู้ตายคือน้าชายของ นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หรือเมย์
เธอสูญเสียน้าชายขณะเรียนชั้นปี 2 และหลายครั้งต้องหยุดเรียน
มาเดินเรื่องฟ้องคนฆ่าน้าชาย ซึ่งเต็มไปด้วยอุปสรรคตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
ล่าสุดอัยการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนคดี นริศราวัลถ์ ยอมรับว่ามีหลายคนไม่เห็นด้วย
กับการเดินหน้าฟ้องในคดีอาญา เพราะส่วนใหญ่คิดว่า สู้ยังไงก็ไม่ชนะคดี
แต่เธอต้องการสู้เพื่อให้สังคมเห็นว่า ลูกชาวบ้าน ก็ลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมได้
โอละพ่อ... คดีหมิ่นฯ ... ขว้างงูไม่พ้นคอ ทหารใหญ่ คสช. อาจมีเอี่ยวร่วมแดก!!1
Tuesday, November 10, 2015
รอยกรรม หมอหยองและคณะ... แต่พวกเขาสมควรต้องตายเลยหรือ???
ประยุทธ์-ประวิทย์ บอกว่า เหนื่อย...แล้วประชาชนเขาว่าไง?
Monday, November 9, 2015
60 ความเชื่อโบราณที่คนไทยควรรู้ และวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเหตุผล
1.) ห้ามใส่ชุดสีดำเยี่ยมคนป่วย เพราะสีดำเป็นสีที่คนโบราณถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์โศก การใส่ชุดดำไปเยี่ยมผู้ป่วยนั้นเป็นการแช่งให้ผู้ป่วยตายเร็วขึ้น
2.) จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด โดยถ้าเสียงนั้นอยู่ด้านหลังหรือตรงศีรษะให้เลื่อนการเดินทางแต่หากเสียง ร้องทักอยู่ด้านหน้าหรือซ้าย ให้เดินทางได้ จะทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นสะดวกสบาย
3.) ตุ๊กแกร้องตอนกลางวัน เชื่อว่าจะมีเหตุร้ายเพราะตามปกติแล้วตุ๊กแกที่อาศัยในบ้านมักจะร้องตอนกลาง คืน ถ้าร้องตอนกลางวันถือเป็นลางบอกเหตุร้าย เนื่องจากคนโบราณเชื่อว่าตุ๊กแกคือ วิญญาณของปู่ย่าตายายที่ตายไปแล้วมาอาศัยอยู่ คอยคุ้มครองลูกหลานจากภัยอันตราย
4.) นกแสกเกาะหลังคาบ้าน จะเกิดลางร้าย เพราะนกแสกเป็นนกที่ถือว่าให้ความอัปมงคล เนื่องจากโดยธรรมชาตินกแสกมักจะไม่มาปะปนอยู่ตามที่อยู่อาศัยของคน
5.) ถ้านกถ่ายรดบนศรีษะ เชื่อว่าจะโชคร้าย หากกำลังจะออกเดินทางแล้วถูกนกถ่ายรดที่ศรีษะซะก่อน ให้หยุดการเดินทางทันที หรือเลื่อนกำหนดออกไปเป็นวันรุ่งขึ้น
6.) เมื่อตัวเงินตัวทองคลานเข้าบ้าน ให้พูดแต่สิ่งดีๆ ไม่ให้ไล่
7.) กลางคืนถ้าได้ยินเสียงร้องทักห้ามขานรับ เพราะเชื่อว่าเป็นเสียงของดวงวิญญาณอาจจะมาหลอนมาหลอกหรือเป็นการเชิญวิญญาณเข้าบ้าน
8.) คนที่มีไฝที่ริมฝีปากล่าง ให้ระวังปากนำเคราะห์ เพราะพูดไม่คิด และมักเป็นคนใจร้อน อารมณ์รุนแรงขาดเหตุผลในการยับยั้งชั่งใจ
9.) คนใดที่มีลักษณะผมหยิกๆ หน้าสั้นคอสั้น มักจะเจ้าชู้ (แต่เป็นความเชื่อขำๆนะ อันนี้ต้องคิดว่าต้องดูต่อจากภายในหัวใจ)
10.) คนใบหูใหญ่มักร่ำรวยและมีบุญวาสนา คนใบหูหนาเป็นคนมีศีลธรรมคนใบหูบางเป็นคนโดดเดี่ยว ไร้บุญวาสนา
12.) คนหัวล้านมักจะเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์ ซึ่งได้ต้นแบบมาจากขุนช้างในวรรณคดี ทำให้คนโบราณเชื่อว่า คนลักษณะแบบนี้จะมีนิสัยเหมือนขุนช้าง
13.) เด็กทารกคนใดที่เกิดมาแล้วมีปาน คนโบราณเชื่อว่า ได้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง (ชาติที่แล้ว) และถูกป้ายด้วยของตำหนิเอาไว้ หากเป็นปานแดงหมายถึงถูกป้ายด้วยปูนแดง และหากเป็นปานดำหมายถึงถูกป้ายด้วยถ่าน
14.) ห้ามปลูกต้นไม้ที่วัดปลูกมาแล้ว (เช่น ไปเอาต้นไม้ที่อยู่ในวัดมาปลูกที่บ้าน) เพราะเชื่อกันว่า ต้นไม้ที่ขึ้นตามวัดหรือนำไปปลูกที่วัดเป็นของสูงและสมควรอยู่ในวัด หากนำมาปลูกที่บ้านจะทำให้บ้านนั้นตกอับ
15.) ห้ามตัดผมวันพุธ เพราะเชื่อว่าการตัดผมวันพุธจะทำให้เกิดอัปมงคลกับชีวิต เพราะอย่างนี้ ร้านตัดผมหลายร้านมักจะนิยมหยุดทำการในวันพุธ
16.) หากตาซ้ายกระตุก เชื่อว่ามีเคราะห์ โชคร้ายผิดหวัง ถ้าตาขวากระตุกถือว่าโชคดี แต่ถ้าเป็นในช่วงกลางคืน ตาขวากระตุกจะไม่ดี จะมีเคราะห์มีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่ถ้าหากเป็นตาซ้ายกระตุกจะมีโชคลาภจากเพื่อน
17.) หากสัตว์ป่าเข้าบ้านเชื่อว่าจะนำความอัปมงคลมาให้ ควรจุดธูปเทียน ดอกไม้และเชิญให้ออกจากบ้าน พร้อมกับขอพรให้นำพาสิ่งดีงามมาให้
18.) ห้ามเผาศพวันศุกร์ เพราะคนโบราณถือว่าการเผาศพในวันศุกร์จะให้ทุกข์กับคนเป็นญาติ เนื่องจากวันศุกร์เป็นวันแห่งโชคลาภ เหมาะกับงานมงคลมากกว่า
19.) ในขณะที่กำลังสางผม หากหวีเกิดหักคาผม จะเกิดเรื่องไม่ดีตามมา ให้นำหวีนั้นทิ้งไปเลย (ซื้อมาเป็นพันเป็นหมื่นก็อย่าเสียดาย) ไม่ให้เก็บไว้ใช้หรือนำไปซ่อมมาใช้ใหม่
20.) ตอนกลางคืนถ้าได้กลิ่นธูปลอยมา คนโบราณเชื่อกันว่า เป็นวิญญาณของญาติสนิทภายในครอบครัวมาหา
21.) ผึ้งทำรังในบ้าน เชื่อว่ามีโชค อย่าไปไล่หรือทำลายเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้เกิดความหายนะ เพราะผึ้งเป็นแมลงนำโชคที่ขยันการทำงาน
22.) การปลูกต้นว่านชี้ชะตาได้ โดยถ้าต้นว่านเจริญงอกงาม ทำนายว่าการค้าจะงอกงาม แต่ถ้าต้นว่านแห้งเ่ยว ทำนายว่าการค้าจะไปไม่รอด
23.) ก่อนออกจากบ้านให้ตั้งสติและก้าวเท้าขวาออกก่อนเท้าซ้าย จะนำโชคดีมาให้ เพราะเชื่อว่าร่างกายมนุษย์เป็นพลังงานลบที่อ่อนแอกว่าด้านขวา
24.) หากนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่ และเกิดมือชนกันขณะเอื้อมไปตักกับข้าว เชื่อกันว่าจะมีแขกมาเยือนให้เตรียมตัวต้อนรับ
25.) อย่าเคาะจานข้าว เพราะเชื่อว่าจะเป็นการเรียกวิญญาณที่พเนจร เมื่อได้ยินเสียงเราเคาะจาน ก็จะพากันมาแย่งเรากินข้าว (บางคนกินข้าวจะรู้สึกว่ากินไม่อิ่ม)
26.) กลางคืนห้ามกวาดบ้าน เพราะเชื่อว่าจะเป็นการกวาดเงินกวาดทองที่สะสมมาตั้งแต่ตอนเช้าออกไปหมดซึ่ง อาจเป็นได้ว่าเมื่อก่อนไม่มีไฟฟ้าตอนกลางคืนมืดมาก การกวาดบ้านตอนกลางคืนจึงไม่ปลอดภัย
27.) ไม่ควรมีรูปภาพหรือรูปปั้นยักษ์ประดับตกแต่งบ้าน เพราะจะทำให้คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยและทำให้มีแต่เรื่องเดือดร้อน
28.) อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับห้องน้ำ เพราะจะทำให้โชคลาภหนีหาย และอย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงตรงกับประตูทางเข้าพอดี เพราะจะทำให้ฝันร้าย
29.) การแบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัขหรือแมวจรจัดที่หิวโหย หรือการให้ที่พักพิงแก่สัตว์เหล่านี้ในวันฝนตกเป็นอานิสงส์มหาศาล
30.) อย่าปล่อยให้ครัวสกปรก เพราะจะทำให้อับโชค ขาดเงิน ขาดทอง
31.) อย่าให้ของขวัญคนรักหรือเพื่อนสนิทเป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี หากมอบให้แล้วจะถือว่าเป็นลางต้องจากกันหรือมีเรื่องทะเลาะกัน
32.) ถ้าปล่อยให้กระจกในบ้านขุ่นมัว จะทำให้ดวงชะตาของคนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรก็ไม่ขึ้น จึงต้องหมั่นเช็ดกระจกสม่ำเสมอ
33.) วันโกน วันพระวันเกิด และวันเข้าพรรษา ควรงดมีเพศสัมพันธ์ เพราะถือว่าเป็นวันบิรสุทธิ์ (คนที่อยู่ในวัยเรียนอย่าแม้แต่จะคิด)
34.) หากเดินไปเจอเหรียญตกให้เก็บเป็นเหรียญนำโชค หากมองผ่านเลยไป จะเหมือนเป็นการดูถูกเงินน้อย ทำให้อับโชคในช่วงเวลานั้นๆ (เก็บให้ตำรวจก็ดีนะเออ)
35.) การสวมแหวนนิ้วกลางข้างขวา ถือเป็นการเสริมดวงการเงินและบารมี ส่วนการสวมแหวนนิ้วนางหรือนิ้วก้อยถือเป็นการเสริมเสน่ห์และเสริมดวงความรัก
36.) ห้ามสาวโสดร้องเพลงในครัว เพราะจะทำให้มีแฟนเป็นคนแก่ หรือหาแฟนไม่ได้ แต่ถ้าตำครกเสียงดัง จะมีหนุ่มมาสู่ขอ
37.) การทำบุณโลงศพอนาถาที่ไร้ญาติ จะเสริมชะตาของเราให้กล้าแข็ง ทำให้ทุกข์และเคราะห์เบาบางลงไปได้
38.) ควรหมั่นดูแลหิ้งพระให้สะอาดสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าเป็นการทำให้เกิดความอับโชคหรือเสื่อมลาภ เสื่อมยศได้
39.) ในบ้านควรมีไข่และส้มในตะกร้าเสมอ เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุขเข้าบ้าน
40.) ห้ามหญิงมีครรภ์ไปงานศพ เพราะเกรงว่าวิญญาณจะสามารถเข้าไปรบกวนทารกในครรภ์ ทำให้เกิดอันตรายได้
41.) ห้ามนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตกจะทำให้นอนฝันร้าย ตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น
42.) ถ้าสร้อยคอขาดออกจากคอหรือหลุดออกมา จะมีเหตุให้พบเรื่องร้าย
43.) ห้ามทักเด็กแรกเกิดที่ยังเล็กว่าน่ารัก เพราะอาจทำให้วิญญาณอิจฉา ลักพาตัวไป
44.) ห้ามตัดเล็บกลางคืน วิญญาณบรรพบุรุษจะอยู่ไม่เป็นสุข เพราะสมัยก่อนการตัดเล็บจะใช้มีดเจียนหมาก หรือมีดเล็กๆ จึงห้ามตัดเล็บในเวลากลางคืน เพราะอาจะเป็นอันตราย
45.) จะก้าวขึ้นหรือลงบันได ให้ก้าวทีละก้าวทีละขั้น อย่าก้าวทีเดียวสามชั้น จะทำให้ทำมาหากินไม่สำเร็จ เหมือนไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ให้ค่อนเป็นค่อยไป อย่าทำอะไรที่ให้เกินความสามารถ หรือข้ามขั้นตอน
46.) ห้ามหญิงท้องไปดูคนคลอดลูกจะทำให้คลอดลูกยาก เพราะหากหญิงมีครรภ์ไปดูคนอื่นคลอดลูกแล้วเห็นภาพอาการเจ็บปวดของการคลอดอาจ จะทำให้กลัวและเกิดอาการเสียขวัญ
47.) โต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกเงา หรือบางกระจกเงาทั้งหลาย ไม่ควรนำมาวางตั้งให้ตรงกับปลายเตียงหัวเยงหรือเหนือเพดาน เพราะจะทำให้หมกหมุ่นอยู่กับเรื่องเพศ นอนหลับไม่สนิท และมักฝันร้ายอยู่บ่อยๆ
48.) ฝนตั้งเค้า ให้ปักตะไคร้คว่ำลงดินกลางที่โล่งแจ้ง จะทำให้ฝนหยุดตก
49.)อย่าลูบศรีษะของเด็ก โดยเฉพาะเด็กไทย เพราะศีรษะถือเป็นส่วนศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรให้ใครลูบเล่น
50.) ฝันว่างูรัด ทำนายว่าคนโสดจะได้พบเนื้อคู่เร็วๆนี้ฝันว่างูกัดทำนายว่าศัตรูเพศตรงข้ามจะคิดร้ายหรือได้รับเคราะห์จะเพื่อนบ้าน
51.) ฝันเห็นคนตายหรือศพ ทำนายว่าจะได้ลาภจากเสี่ยงโชค
52.) ฝันว่าฟันหักทำนายว่าจะสูญเสีย โดยถ้าฝันว่าฟันบนหัก ทำนายว่า จะเสียญาติผู้ใหญ่ข้างฝ่ายบิดา ถ้าฟันล่างหัก ทำนายว่าจะเสียญาติผู้ใหญ่ข้างมารดา
53.) ฝันว่าจูบกับคนรัก จะได้รับเคราะห์เล็กๆน้อยๆจากคนใกล้ตัว
54.) ห้ามฉลองก่อนวันเกิด เพราะอาจหมายถึงการรีบเร่งไปสู่ความตาย
55.) ภายในบ้านไม่ควรมีประตู 3 บาน ตรงกันหรือเหลื่อมล้ำตรงกันเพียงนิดเดียว เพราะเป็นสัญลักษณ์ของประตูจาก 3 โลก ทำให้วิญญาณเดินผ่านมาได้
56.)คางคกขึ้นบ้านถือเป็นลางดี แสดงว่าบ้านนั้นกำลังจะมีโชค
57.) มือซ้ายกระตุก เชื่อว่ามีลางร้ายมีเหตุจะต้องเสียเงินเสียทองมือขวากระตุกเชื่อว่าเป็นลาง ที่ดีมาก จะได้รับโชคลาภ และอาจได้ลาภลอยจาการเสี่ยงโชค
58.) ถ้านกในกรงที่เลี้ยงไว้ร้องในเวลากลางคืนเชื่อว่าจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง
59.) ผู้หญิงระหว่างมีประจำเดือน ไม่ควรก้าวล้ำไปในวัด เพราะอาจก่อให้เกิดความอัปมงคล
60.) ความฝันในตอนเช้ามักเป็นความจริง เพราะคนโบราณเชื่อว่าเทวดามาโปรดสัตว์ซึ่งเคยเป็นญาติมิตรของเรานั่นเอง
ทหารไทย (ระดับนำ) วันนี้... โหด เลว และ โกหก ตอแหล ไม่แพ้ใครในโลก
หยุดดัดจริตประเทศไทย
มีข่าวลือว่าหมอหยองโดนจับ พวกคสช.แถลงว่าไม่โดน
สุดท้ายก็โดนจับจริงตามข่าวลือ
ประวุฒิกับอคชาติมีข่าวหนีพร้อมลาออก กองทัพยืนยันว่าไม่จริง
สุดท้ายลาออกจริงก็หนีไปต่างประเทศพร้อมโดน 112
บอกสารวัตรเอี๊ยดไม่ได้ตายตามข่าวลือ สุดท้ายก็ตายจริงคาคุกทหาร ด้วยการผูกคอให้ห้องผนังปูนปิดตาย 4 ด้าน
พลตรี พิสิฐศักดิ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่มีข้อมูลว่าตายก่อนหมอหยองโดนจับ สุดท้ายก็บอกแค่ว่าผิดร้ายแรง ถอดยศเครื่องราช และไม่น่ามีชีวิตรอด
กลายเป็นว่าข่าวลือคือความจริงที่ไม่ถึงเวลา
และคำแถลงของ พวก คสช. คือคำโป้ปดมดเท็จต่อประชาขน
การตายของสารวัตรเอี๊ยดและหมอหยองรวมถึงพลตรี พิสิฐศักดิ์นั้นเต็มไปด้วยปริศนามากมาย
มันน่าแปลกใจจริงๆ ... ตายในค่ายทหาร เรือนจำลึกลับ ห่างไกลสายตาสังคม ตั้งอยู่ในค่ายทหาร เรียกว่าคุกทหารก็ว่าได้
คนคุมเป็นทหาร คนพบศพหยองและเอี๊ยดก็คือทหาร
คนบอกว่าหยองตายก็เป็นทหาร
ที่น่าสนใจกว่าคือ คนถูกหยองซัดทอดก็เป็นทหาร ..คนที่จะซวยเพราะหมอหยองกำลังซัดทอดก็ดันเป็นทหาร ..
ตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับหยองและเอี๊ยดทั้งหมดเป็นทหาร...บังเอิญจริงๆ
@หยุดดัดจริตประเทศไทย https://www.facebook.com/stopfakethailand/photos/a.414343421995746.1073741828.413982712031817/898723153557768/?type=3&theater
กรรมตามสนอง นายทหารชั่วที่เคยสังหารพี่น้องเสื้อแดง ???
Sunday, November 8, 2015
ข่าวรั่ว...กรณีหมอหยองตายนะผมรู้มานานแล้ว
โอคุณพระช่วย!!! รมว.ยธ.แถลงยอมรับ “หมอหยอง” ติดเชื้อในกระแสเลือด ตายที่รพ.ราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. เวลา 22.00 น.
ว่าเขาอิเหนาเลวเอง...ทหารที่หลบหนีคดี ตอนนี้ ล้วนเป็นคนของ คสช.ทั้งสิ้น!!!
กองกำลังนานาชาติ ของสหประชาชาติ มีอำนาจเข้าไทย เพื่อหยุดยั้งการฆ่าประชาชน จริงหรือ?
มีการกล่าวกันว่า เมื่อมีกองกำลังต่างชาติ โดยองค์การสหประชาชาติ ยกเข้ามาจัดการ ในการแก้ปัญหาของ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่ประเทศไทย แก้ไขไม่ได้
๑. โดยกล่าวหาว่า"นานาชาติ เข้ามาเสือก ในกิจการภายในของประเทศไทยนั้้น " ตรงนี้ผมต้องขออธิบายสักนิด
๒. แต่เดิมนั้น "รัฐทุกรัฐ สามารถอ้างเหตุ เรื่องการแทรกแซงกิจการภายใน ของตนได้ เป็นไปตาม Classic International Law ในเรื่อง อำนาจอธิปัตย์ แห่งรัฐ หรือ State's Sovereignty" จึงเกิดการฆ่ากันแหลกราน
๓. ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง (เดือนกันยายน ปีค.ศ.1938 อังกฤษ และ ฝรั่งเศส ประกาศสงครามกับ ประเทศเยอรมันนี ในกรณีของดานซิกซ์ ในโปแลนด์) จนนำไปสู่การละเมิดกฏเกณฑ์สนธิสัญญา กรุงเฮก ปีค.ศ. 1899 - 1907, สนธิสัญญากรุงเจนีวา ปีค.ศ.1925 จนนำไปสู่การฆ่า และ ทรมานเชลยศึก ไปจนถึงการฆ่าฟันพลเรือน (ชาวยิว, โปแลนด์ ยิปซี พวกสล๊าฟ ตายนับล้านๆ)
๔. ซึ่งเราเรียกการทรมานและการฆ่าว่า "เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ในเอเชีย ก็เมื่อกองทัพลูกพระอาทิตย์ ฆ่าชาวจีน ฟิลิปปินส์ ตายรวมแล้ว หลายล้านคน
๕. ในโซเวียตรุสเซีย เมือสตาลินใช้นโบบาย กำจัดศัตรูคู่แข่ง ที่เห็นตรงข้ามตน คนต้องล้มตายไม่ต่ำกว่า สองถึงสามล้านคน
๖. ด้วยเหตุนี้ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง บรรดานายพลนาซี เยอรมัน และญี่ปุ่น จึงต้องถูกประหารชีวิต เพราะ กระทำการขัดต่อ ข้อห้ามของ โลก ในการใช้กำลังและ อาวุธ รวมทั้ง ทหารเพื่อเข่นฆ่าผู้คน ตาม the London Charter, 1938 (สนธิสัญญานี้ยังไม่ถูกยกเลิก แต่พักการใช้)
๗. ในเวลาต่อมาเกิด เป็นสนธิสัญญาป้องกัน และ ลงโทษ ต่อผู้กระทำความผิดอาญาในฐาน การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ปีค.ศ.1951 และ มีสนธิสัญญาว่าด้ว การการทรมาน ปีค.ศ.1984 และสนธิสัญญาที่เกี่ยวกับ การขจัดการ การเหยียดเผ่าพันธุ์ทุกรูปแบบ รวมทั้งสนธิสัญญาว่าด้วย เรื่องการขจัดการกระทำ ที่เป็น Apartheid
๘. แม้กระนั้น ก็เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขึ้นในหลายๆแห่ง บนพื้นพิภพนี้ เช่นในเอธิโอเปีย อิรัค ลิเบีย ไฮติ บอสเนีย เฮอร์เซ โกวีน่า ราวันด้า และ ซูดาน จนคณะมนตรีความมั่นคงของ องค์การสหประชาชาติ ต้องจัดตั้งศาลอาญาพิเศษ ขององค์การสหประชาชาติในปีค.ศ.1994 - 1995
๙. ตามข้อบัญญัติที่ 827(1993), ที่ 627 (1994) และ ในเวลาต่อมาเกิดสนธิสัญญากรุงโรม หรือ Rome Statue,1998 เพื่อลงโทษแก่ ความผิดอาญา ฐานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และ ความผิดในฐาน เป็นปฏิปักษ์ต่อมนุษยชาติขึ้น ในศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ the International Criminal Court หรือ ศาล ICC ตามคำร้องขอของชาติสมาชิก โดยให้องค์การสหประชาชาติ เป็นสปอนเซอร์ ในการจัดตั้งศาลอาญาถาวรขึ้น
๑๐. ในที่สุดเมือปีค.ศ.1991 องค์การสหประชาชาติ เริ่มก่อตั้งคณะกรรมการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขึ้น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางกฏหมาย เป็นส่วนใหญ่ และ ประกาศนโยบายนี้สำเร็จ เป็นผล ในปีค.ศ.2004
๑๑. ซึ่งเนื้อใจใจความก็ "เพื่อก่อให้เกิด การใช้อำนาจของ การร่วมกลุ่ม เพื่อขจัดกวาดล้างแก่ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่เกิดขึ้น ในรัฐเจ้าของพลเมือง และ รัฐนั้นๆ ไม่ทำหน้าที่ปกป้องพลเมืองของ ตนเอง จากการฆ่าเช่นว่านั้น
๑๒. จึงให้สิทธิแก่ รัฐข้างเคียง และ รัฐอื่นๆ รวมตัวกัน เข้าปกป้องพลเมือง ของรัฐ ที่เป็นเจ้าของพลเมือง โดยการยกกองกำลังทหาร เข้าไปสอดแทรก การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่เกิดขึ้นอยู่ ในขณะนั้นได้"
๑๓. นี่จึงเป็นการสิ้นสุดของ หลักอำนาจอธิปัตย์สูงสุด และ เด็ดขาด ของรัฐ ตาม Classic International Law และหลักการบางส่วนของ Peaceful Co - Existence ที่นำเสนอโดยปูโทรส ปูโทรส กาลี อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ในปีค.ศ.2000
๑๔. ด้วยเหตุดังได้กล่าวมานี้ ในวันนี้ การใช้กองกำลัง เข้าไปขจัด กวาดล้าง การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่เกิดในรัฐใดๆ จึงกระทำได้ และ ไม่ถือว่า "เป็น การแทรกแซงต่อ กิจการภายใน ของรัฐ ผู้ก่อเกิด การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เช่นว่านั้นๆ ในเมื่อรัฐนั้นๆ มีอำนาจ ที่จะป้องกัน กลับ ไม่ให้การป้องกัน แก่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ต่อพลเมืองของ ตนเอง เช่นที่ว่ามานี้
เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.