| |
"วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์"เล่าเบื้องหลังไทยสอบตกมาตรฐาน"ไอซีเอโอ"วันที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 08:45:25 น. http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427936109
|
| |
"วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์"เล่าเบื้องหลังไทยสอบตกมาตรฐาน"ไอซีเอโอ"วันที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 08:45:25 น. http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427936109
|
ถ้าพฤติกรรมของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์คือทุจริต อีกสองมูลนิธิที่จะกล่าวต่อไปนี้ มีพฤติกรรมปล้นประชาชน
มูลนิธิชัยพัฒนาก่อตั้งเมื่อ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2531 โดยมีภูมิพลดำรงตำแหน่งนายกมูลนิธิ สิรินธรดำรงตำแหน่งประธานบริหารมูลนิธิและนายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นเลขาธิการมูลนิธิ มูลนิธิชัยพัฒนาเป็นที่มาของ "โครงการอันสืบเนื่องมาจาก "พระราช ดำริ" ที่มีโครงการมากกว่าสี่พันโครงการ (โครงการปล้นกลางแดด) แต่ละโครงการมีพ่อค้า นักธุรกิจ คหบดีตลอดจนหน่วยงานราชการและองค์กรต่างๆทุกภาคส่วนเปิดรับบริ จาค เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยที่ทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประเทศไทยกลายเป็นกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลก ทุกโครงการจะได้รับยกเว้นการเสียภาษีและไม่มีใครตรวจสอบได้ ( โครงการที่คิดขึ้นมามากมายด้วยจุดประสงค์ในการหาปล้นเงินประชาชนให้ กษัตริย์)
ส่วนมูลนิธิรัฐบุรุษ มีเปรมเป็นประธาน ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2526 จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2535 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 6 รอบ มีบุคคลหลายวงการได้มอบเงินให้พล.อ.เปรม เพื่อตั้งกองทุนสำหรับเป็นรางวัลผู้กระทำความดี ซื่อสัตย์สุจริต และจงรักภักดีต่อแผ่นดิน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น"มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" มูลนิธิแห่งนี้ก็ไม่เคยมีใครกล้าแตะต้องหรือตรวจสอบรายได้จากการบริจาคเช่น เดียวกับมูลนิธิชัยพัฒนา ต่างกันที่คนหนึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่รายหลังมีรายได้มหาศาล จนสามารถสร้างความอื้อฉาวในการเลี้ยงเด็กหนุ่มมากหน้าหลายตาไว้สำหรับปรน เปรอ โดยเฉพาะหนุ่มนักร้องที่มีข่าวว่าจุนเจือไปนับพันล้านบาท นี่ล้วนแล้วแต่ผลงานความสัตย์ซื่อที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและจริยธรรมอันจอม ปลอมที่ไร้ยางอายของ "เปรม ทดแทนบุญคุณแผ่นดิน"
ถ้าหากมีการกล่าวหาว่าโครงการของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์มีการทุจริต โกงกินเงินส่วนต่างของการก่อสร้างแต่อย่างน้อยที่สุดก็ยังมีสิ่งปลูกสร้าง ให้ได้เห็นอยู่บ้าง และก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสมบัติของชาติของประชาชน เพียงแต่เป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีราคาแพงเกินจริง ซึ่งเทียบกันไม่ได้เลยกับมูลนิธิชัยพัฒนาของภูมิพลและมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เพราะมูลนิธิปล้นประชาชนทั้งสองนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะเหลือให้ประชาชนได้เห็น นอกจากประธานมูลนิธิหนึ่งได้ชื่อว่า "เป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก" และประธานอีกมูลนิธิหนึ่ง ได้ชื่อว่าร่ำรวยล้นฟ้ามีเงินปรนเปรอชายหนุ่มมากหน้าหลายตาที่ฟุ่มเฟือย ที่สุดในโลก.....พี่น้อง คนไทยที่รัก ผมว่าความผิดของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์มีความเลวอยู่บ้าง แต่คงไม่ถึงขั้นระยำเท่ากับมูลนิธิปล้นประชาชนทั้งสองอย่างแน่นอนครับ(โปรด ติดตามการทุจริตโกงกินที่ทำร้ายจิตใจคนไทยที่สุดในตอนต่อไป)
สมาพันธ์ตรวจสอบรัฐไทย แจ้งจับทูต US กรณีวิจารณ์ ม.112 ด้าน นปช. ยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลหยุดคุกคามและยุยงปลุกปั่นประชาชน
ที่กองบังคับการปราบปราม นายสนธิยา สวัสดี ตัวแทนสมาพันธ์ตรวจสอบรัฐไทย ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษนายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย กรณีแสดงความเห็นวิจารณ์กฎหมายอาญามาตรา 112
หนังสือดังกล่าวมุ่งหมายให้พนักงานสอบสวนถอดเทปถ้อยแถลงดังกล่าว พร้อมตรวจสอบความบริสุทธิ์ใจของผู้จัดการ โดยหากมูลความผิดตามบทบัญญัติกฎหมายอาญามาตรา 112 ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อไป
ก่อนหน้านี้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯได้แสดงความกังวลต่อบัญญัติดังกล่าว พร้อมยืนยัน การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติไม่ควรถูกจำคุก ต่อมาประชาชนจำนวนหนึ่งนำโดยพระพุทธอิสระ เข้ายื่นหนังสือคัดค้านท่าทีดังกล่าว
อีกด้านหนึ่งแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลยุติคุกคามแกนนำ นปช. และประชาชนทั่วไป ยืนยันการกระทำดังกล่าวไม่มีความชอบธรรม ขัดรัฐธรรมนูญ เรียกร้องขอผ่อนคลายท่าที
ขณะที่พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมุ่งมั่นสร้างความสงบเรียบร้อย และเสถียรภาพ และให้สิทธิเสรีภาพต่อประชาชนอย่างเสมอภาค หากไม่กระทบต่อส่วนร่วม
นอกจากนี้รัฐบาลไม่สามารถให้คนบางกลุ่มมีอิสระที่จะสร้างความวุ่นวาย ปั่นป่วน ปลุกระดม อันจะเกิดความไม่สงบในประเทศได้ พร้อมเรียกร้องนปช. คิดถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก
ป.ป.ช.ไม่พบทุจริต′ราชภักดิ์′ ยังไม่รับ ไต่สวนปม′ราชภักดิ์′ รอ3 หน่วยงานส่งผลสอบ ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริต ยังไม่ตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง เพราะยังไม่มีเหตุอันพึงสงสัย นาย สรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากเดิมที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติให้สำนักงานป.ป.ช.รวบรวมข้อมูลที่ เกี่ยวข้องกับโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์โดยตนมอบให้สำนักการข่าวและ กิจการพิเศษของสำนักงานป.ป.ช.ไปรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานภาครัฐ และประชาชนซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลในภาพรวมยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการ ทุจริตแต่ในส่วนของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. ได้ตรวจพบว่ามีการใช้งบกลางของรัฐบาลในการจัดสร้างกว่า 63 ล้านบาท เป็นหน้าที่สตง.ที่จะตรวจที่มาที่ไปของเงิน ขณะเดียวกันได้มีผู้ที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวได้ไปร้องทุกข์กองบังคับการปราบปรามในวันที่24 พ.ย.ที่ผ่านมาและทางกระทรวงกลาโหมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการจัดสร้างเช่นกัน ทางป.ป.ช.เห็นว่ามีหน่วยงานที่ตรวจสอบแล้วจึงมีมติให้สำนักงานป.ป.ช.ติดตามผลการตรวจสอบของทั้ง 3 หน่วยงาน ว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าอยู่ขอบเขตอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบของป.ป.ช.ได้หรือไม่ ซึ่งทางป.ป.ช.จะเข้าไปตรวจสอบได้ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ สำหรับการตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงกับเรื่องที่สังคมให้ความสนใจนายสรรเสริญกล่าวว่า การจัดตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงต้องปรากฏว่ามีเหตุอันพึงสงสัย จึงจะเข้าหลักเกณฑ์ที่ป.ป.ช.จะรับเรื่องมาดำเนินการได้ และประชาชนที่มาร้องเรียนสามารถทำได้แต่ต้องดูว่าเข้าเกณฑ์ 3 ข้อ ของป.ป.ช.หรือไม่ ได้แก่ มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ มีเหตุอันพึงสงสัยหรือไม่ อยู่ในอำนาจของป.ป.ช.หรือไม่ และกล่าวหาใคร มีหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งหากอยู่ในหลักเกณฑ์ก็สามารถรับเรื่องมาดำเนินการได้ไม่ต้องรอผลจาก 3 หน่วยงานข้างต้น โดยในขณะนี้ยังไม่มีผู้มาร้องเรียน ส่วนที่กรณี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ออกมายอมรับว่ามีการหักค่าหัวคิวโรงหล่อจริง ขณะนี้ข้อมูลยังไม่มีเหตุอันพึงสงสัย เนื่องจากบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นเอกชน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนที่สำนักการข่าวป.ป.ช.พบว่าการประมูลต้นปาล์มราคากว่า 1 แสนที่แพงเกินจริงนั้น นายสรรเสริญ กล่าวว่า ยังเป็นเพียงข้อมูล เป็นหน้าที่คณะกรรมการของกระทรวงกลาโหมในการตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง | |
Tags : ราชภักดิ์ อุทยานราชภักดิ์ ป.ป.ช. | |