ในที่ประชุมคณะทำงานเพื่อการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนรายประเทศ (ยูพีอาร์) รอบที่ 2 ของคณะทำงานยูพีอาร์ในสังกัดคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 25 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทน ขึ้นแถลงเป็นการกล่าวเปิดการนำเสนอรายงานรอบที่ 2 ของไทยต่อคณะทำงานยูพีอาร์ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม
ในนามของรัฐบาลไทย ผมขอแสดงความขอบคุณสำหรับโอกาสในการนำเสนอรายงานยูพีอาร์ รอบที่ 2 ต่อคณะทำงานยูพีอาร์ ครั้งที่ 25 รู้สึกเป็นเกียรติสำหรับการเป็นผู้นำคณะผู้แทนไทยในการทบทวนที่สำคัญยิ่งนี้
คณะผู้แทนไทยประกอบไปด้วยผู้แทนจากหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ไม่ได้เข้าร่วมในวันนี้ แต่ได้มีส่วนร่วมในการเตรียมการและให้ข้อมูลที่สำคัญต่อการทบทวนรายงาน
ได้ประสานความร่วมมือกับภาคประชาสังคมอย่างกว้างขวางในกระบวนการร่างรายงานยูพีอาร์ผ่านการจัดการอบรมและการปรึกษาหารือภายในประเทศ คณะรัฐมนตรีได้ลงนามเห็นชอบต่อร่างรายงานประเทศก่อนส่งให้คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ได้ยอมรับจากการทบทวนรอบแรก และคณะรัฐมนตรีได้ปรึกษาหารือกันอีกครั้งในรายงาน ซึ่งส่งผลให้สาธารณชนมีความสนใจต่อกระบวนการยูพีอาร์ เป็นอย่างยิ่ง
ประเทศไทยมีพันธะในการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน นายกรัฐมนตรีมักกล่าวเสมอว่าคนอาจเกิดมาโดยมีพื้นฐานต่างกัน ผู้คนอาจไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเท่าเทียมกัน แต่เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทุกคนต้องเท่าเทียมกันต่อหน้ากฎหมาย และในฐานะรัฐบาล เราต้องให้การประกันว่าทุกคนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียมกัน
รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวของไทยในปัจจุบันรับประกันว่าคนทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมถึงสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียม และยังได้กำหนดให้มีหมวดสิทธิและเสรีภาพไว้ในร่างรัฐธรรมนูญที่จะถูกลงประชามติในเดือนสิงหาคมปีนี้ การลงประชามติจะทำให้ชาวไทยสามารถใช้วิจารณญาณ ในการกำหนดอนาคตของชาติ
หลังจากการทบทวนรอบแรกในเดือนตุลาคม 2554 ที่ประเทศไทยได้ยอมรับข้อเสนอแนะ 134 ข้อ และประกาศคำมั่นโดยสมัครใจ 8 ข้อ ไทยได้มีความก้าวหน้าในหลายด้านในช่วงแรก ไทยได้รวบรวมข้อเสนอแนะที่ได้ยอมรับจากการทบทวนครั้งแรกไว้ในแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่ 3 เพื่อประกันการดำเนินการของหน่วยงานรัฐอย่างเป็นองค์รวมและมีประสิทธิภาพในช่วงระยะเวลา 4 ปี ครึ่งประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ได้แก่ พิธีสารเพื่อป้องกัน ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก (UNTOC) พิธีสารเลือกรับฉบับที่ 3 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กว่าด้วยกระบวนการรับเรื่องร้องเรียน และอนุสัญญาไอแอลโอฉบับที่ 187 ด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
ประเทศไทยยังได้ถอนข้อสงวนและถ้อยแถลงตีความต่อสนธิสัญญาหลายฉบับ ได้แก่ มาตรา 6 และ 9 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) มาตรา 16 ของอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (CEDAW) และมาตรา 18 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (CRPD) ไทยจะยังคงความพยายามในเรื่องนี้ต่อไป และไทยกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเข้าเป็นภาคี สนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนอื่นๆ เช่น พิธีสารเลือกรับของ CRPD สนธิสัญญามาร์ราเกซ (Marrakesh Treaty) อนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล อนุสัญญาไอแอลโอ ฉบับที่ 111 ว่าด้วยการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานและอาชีพ และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (ICCPED) ที่ได้มีการลงนามเมื่อปี 2555
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนหลายฉบับยังได้ถูกประกาศบังคับใช้และพัฒนา ซึ่งได้แก่พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม การแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อทำให้สื่อลามกอนาจารเป็นความผิดอาญา คณะรัฐมนตรีเพิ่งได้มีมติเห็นชอบต่อการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานและร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา กฎหมายทั้ง 2 ฉบับได้ถูกเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาแล้ว มีความก้าวหน้าที่สำคัญที่เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบราชทัณฑ์และกฎหมายยาเสพติด
ไทยมีความพยายามต่อการปรับปรุงพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ 2479 ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังเป็นไปตามมาตรฐานสากลมากขึ้น
การปรับปรุงกฎหมายยาเสพติดเป็นไปเพื่อการให้การประกันถึงวิธีการที่บูรณาการและสมดุล ไทยได้รวบรวมกฎหมายยาเสพติดไว้เป็นกฎหมายฉบับเดียวที่มีบทลงโทษที่ได้สัดส่วนกับความผิด กฎหมายฉบับใหม่ให้การสนับสนุนมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษและมาตรการเบนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ไม่รุนแรงเพื่อเปลี่ยนเป็นการให้การรักษาและการฟื้นฟูแก่ผู้ติดยาเสพติดโดยความสมัครใจ แทนที่จะเป็นการจำคุก
รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมและปกป้องสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เช่นเดียวกับสิทธิในการพัฒนา ซึ่งเห็นได้จากการที่ไทยบรรลุถึงเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDGs) ส่วนใหญ่ รวมถึง MDG-Plus targets และจะดำเนินความพยายามอย่างต่อเนื่องในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGS)
รวมถึงนโยบายการศึกษาสำหรับทุกคน โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า และนโยบายในปัจจุบันที่เพิ่มความพยายามในการต่อสู้การค้ามนุษย์และการทุจริต คณะผู้แทนไทยจะได้กล่าวถึงรายละเอียดต่อไป
ไทยยังริเริ่มโครงการอีกหลายโครงการเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คน เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็ก และการจัดตั้งกองทุนการศึกษา และโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่คนไร้บ้าน มาตรการเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคุ้มครองแต่ยังเป็นการเสริมสร้างให้ผู้คนเหล่านี้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ
การดำเนินงานของไทยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเพื่อคนในชาติเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงชาวต่างชาติ ไทยได้ให้การดูแลแก่ผู้พลัดถิ่นชาวพม่าจำนวนมากกว่า 1 แสนคน มาเป็นระยะเวลากว่า 4 ทศวรรษ รัฐบาลยังพัฒนามาตรการคุ้มครองแรงงานอพยพโดยการใช้การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวทั่วประเทศ และบันทึกความเข้าใจในความร่วมมือทางด้านแรงงานกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ รวมถึงการจดทะเบียนเด็กแรกเกิดทุกคนที่เกิดในประเทศและการเข้าถึงการศึกษาและการรักษาพยาบาลของเด็กเหล่านี้
จากที่เกิดวิกฤตการณ์ผู้อพยพในมหาสมุทรอินเดีย ไทยได้ร่วมมือกับประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และการหาหนทางแก้ไขปัญหาสำหรับบุคคลเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นเพิ่งเกิดขึ้นคือการยอมรับให้เหยื่อและพยานในคดีค้ามนุษย์ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีสามารถอยู่ในประเทศไทยได้ชั่วคราว รวมถึงให้สามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย
รัฐบาลยังดำเนินการเร่งพิสูจน์และให้สถานะทางกฎหมายแก่นักเรียนที่มีปัญหาทางสัญชาติซึ่งจะทำให้นักเรียนจำนวนมากกว่า 65,000 คน ได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้
แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าและการพัฒนาในทางบวกในหลายด้าน แต่ไทยก็รับรู้ว่ายังมีข้อท้าทายที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งเป็นเหตุผลให้ไทยใช้ความพยายามอย่างเต็มความสามารถในการเสริมสร้างสาธารณูปโภคด้านสิทธิมนุษยชนและพัฒนากรอบทางกฎหมายที่จำเป็น ไทยยังคงดำเนินการต่อไปเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรโดยความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ไทยยังจำเป็นต้องสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจด้านสิทธิมนุษยชนต่อไป และไทยต้องนำสิทธิมนุษยชนมาประกอบการพิจารณาในการจัดทำนโยบายและการปฏิบัติหน้าที่
การส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชนไม่ใช่งานของรัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นงานของทั้งประเทศโดยรวม ความตระหนักรู้และความเข้าใจถึงประเด็นสิทธิมนุษยชนจะช่วยให้สาธารณชนรับรู้และปกป้องสิทธิของตน รวมทั้งไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
ในระยะเวลาอันสั้นไทยมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการเอาชนะต่อปัญหาข้อท้าทายทางการเมืองซึ่งส่งผลให้เกิดการแบ่งแยกทางสังคมและความขัดแย้งเป็นระยะเวลานานหลายปี แต่เป็นที่แน่นอนว่าข้อท้าทายดังกล่าวไม่อาจได้รับการแก้ไขภายในระยะเวลาอันสั้น
ขณะเดียวกัน ได้ดำเนินการปฏิรูปภายในประเทศอย่างเต็มรูปแบบเพื่อที่จะพัฒนาสาธารณูปโภค เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสาธารณะ และแก้ไขปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน เช่น การทุจริต ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
จากการที่ได้แสดงข้อกังวลต่อการจำกัดเสรีภาพการแสดงออก การกำหนดข้อจำกัดต่างๆจะมีขึ้นเพียงในระดับเท่าที่จำเป็นเพื่อคงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชนและป้องกันการแบ่งขั้วที่จะได้เกิดขึ้น สาธารณชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบและสามารถที่จะดำรงชีวิตและใช้สิทธิต่อไปได้
ซึ่งรวมถึงเสรีภาพการแสดงออก เป็นที่แน่นอนว่าข้อท้าทายที่สำคัญคือการคงไว้ซึ่งความสมดุลในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันกับการไม่บั่นทอนการใช้สิทธิ เสรีภาพต่างๆ โดยเฉพาะในอันที่เกี่ยวกับการกระทำตามศรัทธาและเจตนาที่ดี
ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าจะให้ความเคารพต่อข้อผูกพันทางประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน อย่างแรงกล้า และไทยจะไม่ผันแปรไปจากแนวทางนี้
ผมรับรู้ถึงการปรากฏตัวของตัวแทนองค์กรภาคประชาสังคมไทย คณะผู้แทนได้พบปะกับองค์กรหลายองค์กรระหว่างช่วงเตรียมการจัดทำรายงาน ผมยังได้เรียนรู้ว่าหลายหน่วยงานในประเทศไทยได้รวมตัวกันเพื่อที่จะฟัง ยูเอ็น ไลฟ์ เว็บคาสต์ ผมหวังว่าเราจะได้เรียนรู้ไปด้วยกันจากการทบทวนในวันนี้
ผมและทีมงานตั้งตารอที่จะดำเนินงานกับหน่วยงานพันธมิตรทุกหน่วยงานหลังจากช่วงนี้ เพื่อที่จะดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ได้มีการยอมรับอย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายนี้ ท่านประธาน คณะผู้แทนตั้งตารอถึงการเจรจาที่สร้างสรรค์และผลลัพธ์ที่มีประสิทธิผลจากการดำเนินการดังกล่าวนี้
No comments:
Post a Comment