วิทยุนปช. ยูเอสเอ

12 มีนาคม 2558 รำลึกถึงพี่วู๊ดไซด์ นิวยอร์ค แห่ง นปช.ยูเอสเอ ครบรอบร้อยวัน การมรณภาพของท่าน
::: วิทยุ นปช.ยูเอสเอ ::: :::::: วิทยุมหาวิทยาลัยประชาชน :::

Monday, August 29, 2016

สนธิ (ลิ้ม) แฉ ประยุทธ์ หักหลัง ประวิทย์ ซบตักป๋า จริง!!!

สนธิชื่นชมบทบาทที่เปลี่ยนไปของประยุทธ์แต่แนะแก้จุดอ่อนเรื่องเศรษฐกิจ
เช้าวันศุกร์หลังเถ้าแก่ผ่านพ้นจากคดีในศาลฎีกาจากการลุกขึ้นมาต่อสู้กับทักษิณไปอีกเปลาะหนึ่ง เรากินข้าวเช้ากันและคุยกันถึงความเป็นไปในบ้านเมืองเฉกเช่นปกติ ตอนหนึ่งเถ้าแก่สนธิก็พูดขึ้นมาว่า "ประยุทธ์วันนี้ไม่เหมือนวันก่อนๆแล้ว"ก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า

"สองปีแรกที่ขึ้นมาเป็นสองปีแรกที่ไม่แน่ใจ แล้วคนที่ทำให้ประยุทธ์ต้องเป็นอย่างนี้นี่นะ มีอิทธิพลทำให้ประยุทธ์เปลี่ยนความคิดแล้วประยุทธ์เดินหน้าไปอย่างนี้นี่ก็คือไพบูลย์ คุ้มฉายา เพราถ้าไม่มีไพบูลย์ คุ้มฉายา ประยุทธ์จะโดนประวิตรครอบงำตลอด ทุกเรื่องเลย ประยุทธ์เป็นคนซึ่งคิดอะไรง่ายๆสั่งการให้ทุกคนทำ ลักษณะเป็นผู้บัญชาการทหารบก เอ้ย ไปจัดการเรื่องนี้ เอ้ยไปจัดการหน่อย แต่การสั่งการให้คนทำในยุคที่ประยุทธ์ขึ้นมานี่ คนที่รับงานต่อไปนี่ไม่มีความสามารถ มีไพบูลย์อยู่คนเดียวที่อยู่กระทรวงยุติธรรมแล้วไพบูลย์เนี่ยก็ใช้กฎหมายเดินหน้า ไพบูลย์ก็โชคดีที่ไพบูลย์มีชัยยะ ศิริอำพันธุ์กุล ชัยยะเป็นคนทำทุกเรื่องให้ไพบูลย์ ไพบูลย์ก็ทำเรื่องสำเร็จ พอแต่ละเรื่องทำสำเร็จปังปั๊บเนี่ย มันก็เหมือนปลดโซ่ตรวนของประยุทธ์ออกทีละข้อทีละข้อ เพราะก่อนหน้านั้นประยุทธ์ยังมีลักษณะปรองดองกับทักษิณ แต่พอปลดโซ่ตรวนออกปังปั๊บก็เอาดาบใส่มือให้ประยุทธ์ก็คือว่า หนีไม่ได้แล้วตอนนี้ต้องชนกับทักษิณแล้วนะเข้าใจมั้ย ใส่โซ่ตรวนการปรองดองออกแต่ใส่ดาบการปะทะกันเข้าไปแทนแล้ว นั่นคือที่มาตั้งแต่ถอดยศทักษิณแล้วเห็นมั้ย"เถ้าแก่ยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบอึกหนึ่งก่อนจะพูดต่อ

"สังเกตตอนแรกที่ชัยยะทำเรื่องถอดยศทักษิณ ประยุทธ์ยังชักเข้าชักออกนะ ยังไม่ชนเต็มตัวนะ ชัยยะพูดได้เลยเป็นตัวแปรสำคัญมาก มาช่วงหลังเนี่ยพอในที่สุดแล้วนี่เลขาปปง.คนเก่านี่พ.ต.อ.สีหนาทเนี่ยมันสนิทกับคุณหญิงอ้อ เพราะฉะนั้นสังเกตอย่างในยุคสีหนาท สีหนาทจะไม่ทำเรื่องอะไรก็ตามที่จะไปกระทบกระเทือนฝ่ายพรรคเพื่อไทยหรือคุณหญิงอ้อหรือทักษิณ ก็เลยทำให้ลักษณะประยุทธ์คล้ายๆว่าเอ้ยมึงเป็นเลขาปปง.ทำไมไม่ทำ เขาสั่งไปแล้วไงว่าให้ทำแล้วไม่ทำ คือลักษณะประยุทธ์จะเป็นอย่างนี้เขาไม่ลงรายละเอียดเขาไม่ทำเอง เอ้ยไปจัดการนะ แต่พอไม่จัดการประยุทธ์ก็ไม่รู้จะทำยังไง เข้าใจหรือเปล่า เผอิญจังหวะธรรมะจัดสรรตำแหน่งของไอ้สีหนาทมันหมดเทอมมันหมด ต้องเอาตัวใหม่ขึ้นมา สีหนาทมันวางแผนถึงขนาดจะมีการคัดสรรนะ เอากรรมการคัดสรรเพื่อมีเลขาปปง.ใหม่วางแผนไว้เรียบร้อยเลยนะ เตรียมที่จะเอาคนทางสายของพรรคเพื่อไทย ทักษิณ คุณหญิงอ้อขึ้นมาอีกที แต่เหมือนกับประยุทธ์รู้ทัน และไพบูลย์คงจะไปบอกประยุทธ์ ประยุทธ์ก็เลยตัดสินใจใช้มาตรา 44 แต่ก่อนจะใช้มาตรา44นี่ ประยุทธ์รู้ว่าชัยยะนี่เป็นน้องของเรา คำแรกที่ประยุทธ์พูดกับไพบูลย์ว่า เอ้ยนี่มันเด็กสนธินี่ ใช่มั้ย ไพบูลย์เขาเป็นคนตรงไปตรงมา เขาบอกจะเด็กของใครไม่สำคัญหรอกสำคัญคนนี้ทำงานได้ ใช่มั้ย แล้วชัยยะก็เป็นคนตรงไปตรงมา"เถ้าแก่เล่ายาวก่อนจะพูดต่อ
"ประยุทธ์ก็เลยขอพบ ชัยยะก็บอกว่าผมนี่เป็นน้องพี่สนธิเค้า อยู่กันมา30กว่าปีแล้วเขาเป็นคนดีเขาไม่เคยทำชั่วอะไร ทำไมผมจะคบเขาไม่ได้ ถ้าท่านไม่สบายใจผมเซ็นใบลาออกให้ล่วงหน้าเลย แต่ถ้าท่านใช้ต้องอย่าระแวง ประยุทธ์เขาชอบความเป็นนักเลงแบบนี้ ก็เลยในที่สุดคำว่าคนของสนธิก็เลยหมดไป ซึ่งชัยยะขึ้นประวิตรไม่ต้องการ เพราะประวิตรเขาวางสายคนของเขานี่ ตั้งแต่อธิบดีดีเอสไอจะเอาคนของเขาไปนั่งแต่ว่าไพบูลย์กั๊กวิธีการไม่ต้องการให้ประวิตรส่งคนเข้ามาไพบูลย์ก็เลยตั้งคนในดีเอสไอที่เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมตอนนั้นมารักษาการ คือให้คนข้างในขึ้นไม่ให้คนนอกเข้ามานี่คือวิธีการที่เขาสู้กัน แล้วก็แลกกันการที่ไพบูลย์สนับสนุนชัยยะขึ้นมาหรือจะทำไรก็ตามนี่ต้องแรกกับการที่ประวิตรจะเอาญาติขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นั่นคือที่มาของปฏิคม เหลืออีก3เดือนเกษียณก็ยังเป็นอธิบดี ไพบูลย์ก็ให้ไปเพื่อแลกกัน"

เถ้าแก่ยกถ้วยกาแฟขึ้นมาดื่มอีกครั้งแล้วเล่าต่อ "พอชัยยะขึ้นมาปังปั๊บเนี่ย ชัยยะขึ้นมา3เดือนเนี่ยผลงานออกมาเป็นชุดเลย นี่คือสิ่งที่ประยุทธ์อยากให้ข้าราชการประจำทำตามคำสั่ง พอแล้วประยุทธ์ก็บอกผมให้เข้าทำนี่ ก็ทำตามกฎหมายเขาผิดตรงไหน แต่ถ้าไม่ทำนี่ประยุทธ์ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยเป็นครั้งแรกที่เจออดีตตำรวจกล้าตัดสินใจเดินหน้าลุยชนทุกเรื่อง อิทธิพลมีไม่มีไม่สนใจทำให้เห็น จนกระทั่งพวกทักษิณเป๋ไปหมดเลย ทักษิณเป๋ไปหมดเลย ประยุทธ์โซ่ตรวนที่ถูกประวิตรครอบงำก็เลยหลุดหมดเหลือแต่ดาบที่อยู่ในมือ ตอนนี้นี่ชัยยะเป็นดาบอาญาสิทธิ์ของประยุทธ์ แล้วไพบูลย์อีกคนหนึ่ง มันก็เลยทำให้ประยุทธ์รู้สึกว่าเอ้ยถึงเวลาแล้ว ประยุทธ์ก็เริ่มแรงกับทักษิณทีละนิดทีละนิดสังเกตมั้ย ไม่เหมือนกับสมัยก่อนนะ เดี๋ยวนี้มีการไอ้ลูกหมานึกออกมั้ย พูดง่ายๆว่าเริ่มมีความมั่นใจแล้ว ที่ผ่านมาตัวเองไม่ใช่กลัว แต่ตัวเองขาดขุนพลไง เผอิญประยุทธ์มีครบแล้วตอนนี้มีไพบูลย์มีนั่น ขาดอยู่อย่างเดียวเท่านั้นเองคือทำยังไงให้กองทัพมันสงบ ในที่สุดก็เป็นที่มาของพล.อ.เฉลิมชัย ซึ่งเป็นฝ่ายวงศ์เทวัญ เป็นหมวกแดง การที่เฉลิมชัยมาครั้งนี้ก็เท่ากับว่าประยุทธ์จับมือกับป๋า เพราะไม่งั้นบูรพาพยัคฆ์ก็จะสืบทอดอำนาจต่อเพราะวางคนไว้หมดแล้ว เท่ากับตัดตอนบูรพาพยัคฆ์เลย จากนี้ไปสองสามรุ่นวงศ์เทวัญตลอด บูรพาพยัคฆ์ลืมไปได้เลยซึ่งประวิตรวางตัวพิสิษฐ์ เสธ.ทบ.ขึ้นปรากฎว่าเถียงกันหนักหน้าสาหัสสากรรจ์ในที่สุดประยุทธ์ชนะ ป๋านี่มีสิทธิ์มีส่วนมาก อิทธิพลป๋าสูงมาก เพราะฉะนั้นจากการไม่เปิดบ้านให้ กลายเปิดบ้าน ตัวผบ.ทบ.คนใหม่แสดงตัวว่าอยู่ข้างป๋าชัดเจน วันที่ที่ป๋าจัดคอนเสิร์ตไปเลยคนเดียวเลยนะ ไปยืนกับป๋าเลยนะ ตรงนี้ทำให้วันนี้เราเห็นภาพใหม่แล้ว บรรยากาศอึมครึมในเรื่องทหารหมดแล้ว วันนี้ที่น่าสนใจก็คือว่าประวิตรจะถอยแค่ไหน หรือประวิตรจะยอมรับสภาพแล้วต้องเล่นเกมต่อตามที่ประยุทธ์หรือสังคมหรือป๋ากำหนดให้เล่น แต่พี่มองแล้วประวิตรไม่มีหนทางสู้ประยุทธ์เลยตอนนี้ วิษณุออกมาลุยเรื่องปฏิรูปตำรวจแล้วเห็นมั้ย วิษณุนะลุยแล้วนะบอกทำเสร็จภายในปีนี้ 4 ข้ออะไรบ้าง อาวุโส หมายความว่าไงหมายความว่าจากนี้ไป เด็กของพัชรวาทเด็กของประวิตรพวกนี้เอามาฝากเอามายัดตรงโน้นตรงนี้ไม่ได้แล้วนะ ต้องอาวุโสอย่างเดียวแล้วนะก็เท่ากับว่า ในอดีตมีการซื้อขายตำแหน่งกันมาก เยอะมากเลย เขาก็เลยบอกว่าจากนี้แต่งตั้งอาวุโสอย่างเดียว ไม่มีสมัยก่อนอาวุโส 33 เปอร์เซนต์ ความสามารถ 33 เปอร์เซนต์ แล้วความเหมาะสมอีก33เปอร์เซนต์ ดังนั้นถ้ามี30คนตำแหน่งว่าง มีอาวุโสอยู่ร้อยคนได้ขึ้นแค่30คน อีก70คนวิ่งเต้นกันหมดนี่คือที่มาของการข้ามหัวคนไง แล้วการซื้อตำแหน่ง นี่สะท้อนให้เห็นการที่ประวิตรไม่ยอมปฏิรูปตำรวจ เห็นมั้ยว่าเกมออกมาแต่ละเกมเป็นเกมข้างบนทั้งนั้นเลย แล้วเมื่อวานนี้ที่จำคุกหมอเลี๊ยบเป็นการส่งสัญญาณที่แรงมากไปยังทักษิณ ให้รู้ว่าน้องสาวมึงไม่หรอก เพราะฉะนั้นทักษิณมีทางเดียวคือต้องเอาน้องสาวหนี เพราะพิพากษามาแล้วถ้าผิดยายปูอาจโดนประมาณ12ปี เผลอๆอาจจะมากกว่านี้สุดแล้วแต่เขาคิดยังไง บุญทรงโดนแน่นอนโดนหมด แต่ว่ายิ่งลักษณ์นี่ทักษิณต้องเอายิ่งลักษณ์หนี ต้นปีหน้านี่น่าจะพิพากษาแล้ว จากนี้ไปจนถึงต้นปีช่วงไหนหนีได้หนีแล้ว แล้วถ้าจะหนีในขณะนี้จะหนีทางชายแดนภาค5เชียงใหม่เชียงรายน่าน เพราะผู้บัญชาการภาค5คนปัจจุบันสนิทกับเยาวภา วงศ์สวัสดิ์มาก"เถ้าแก่พูดถึงตรงนี้แล้วนิ่งเงียบปล่อยให้บนโต๊ะออกความเห็นก่อนจะพูดต่อว่า

"พี่มองว่าประยุทธ์พอปลดแอกแล้วมีคนทำงานให้แต่เขายังพลาดอยู่เรื่องเดียว เขาไม่เก่งเศรษฐกิจ เขาเลยต้องพึ่งสมคิด จุดอ่อนของประยุทธ์ตอนนี้คือเศรษฐกิจ สมคิดทำเละหมดเลย คือประยุทธ์น่าเสียดายมากไม่รู้เรื่องนี้ โดนสมคิดกล่อมเสียจนเชื่อสมคิดหารู้ไม่ว่าสิ่งที่สมคิดทำนี่ คือการทำลายรากฐานเศรษฐกิจที่เข้มแข็งของประเทศไทยให้เจ๊งฉิบหายหมดเลย สมคิดมันทำเพื่อทุนอย่างเดียวเท่านั้นเอง คือน่าเห็นใจเขา เขาไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจเลยนะ แล้วสมคิดนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องแบรนด์ดิ้งนะ สมคิดไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์คนนี่เข้าใจสมคิดผิดหมดเลยนะ สมคิดนี่เรียนจบมาทางแบรนด์ดิ้ง เชี่ยวชาญที่ทำอย่างไรที่จะโปรโมทอิมเมจของตัวเอง เน้นแบรนด์ดิ้งตลอด เป็นคนพูดเก่งแต่โอเปอเรชั่นใช้ไม่ได้เลย เพราะคนไม่เคยเข้าใจโอเปอเรชั่น จำไว้อย่างนะพี่เคยพูดหนึ่งถ้ายูเอาคนที่เคยเป็นอดีตนายแบงก์มาเป็นรัฐมนตรีคลังนะ เจ๊งทุกที เพราะมันมองปัญหาคลังแบบการเงิน เหมือนกับยูเอาหมอมาเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข ยูต้องเอาคนที่ เรียนทางด้าน public health สาธารณสุขศาสตร์มาเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข เพราะว่าหมอเป็นแค่ส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุขเข้าใจมั้ย เหมือนกันการคลังยูต้องเอาคนซึ่งมีภาพกว้าง แล้วต้องเป็นคนที่เข้าใจตลาดทุนด้วยอย่างลึกซึ้ง คนที่เหมาะที่สุดในสายตาของพี่ที่จะเป็นรัฐมนตรีคลังนะ แล้วผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายอย่างแล้วพิสูจน์กึ๋นตัวเองมาเรียบร้อยคือธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ธีรชัยอดีตเป็นรองผู้ว่าแบงก์ชาติ อยู่ฝ่ายควบคุมมาก่อนเรื่องการเงิน สองไปเป็นเลขากลต. อยู่ตลาดทุนเขาครบหมดเลยเพราะตลาดทุนมันรวมถึงภาพเอกชนหมดทุกอย่างไง สามที่สำคัญที่สุดเขาเป็นคนที่ออกมาสู้เรื่องพลังงาน เพราะฉะนั้นเขามีลักษณะที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นวันนี้คนที่เหมาะจะเป็นคลังมากที่สุด พี่ดูตัวในประเทศไทยแล้ว เหลือธีรชัยคนเดียว แล้วเขาเป็นคนตัดสินใจเด็ดขาด รวดเร็ว กล้าตัดสินใจ เขาอยู่แบงก์ชาติเขารู้หมดนี่แบงก์เป็นยังไง"

เถ้าแก่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า "ถ้าประยุทธ์หยุดคิดสักนิดหนึ่งแล้วหันมาดูเศรษฐกิจว่าใช้คนผิดหรือเปล่า ผิดเพราะสมคิดนี่เป็นนายหน้าของนายทุนหมดเลยไม่ว่าจะเป็นซีพี ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยเจริญ ไม่ว่าจะเป็น จิราธิวัฒน์ ทุนใหญ่นี่สมคิดคือตัวแทนนายหน้า ทำงานทุกอย่างเพื่อทุน สมคิดนี่ควรที่จะออกมาเช่นได้ข่าวว่าปตท.จะเริ่มขายหมูปิ้ง ข้าวเหนียวสมคิดต้องบอกปตท.ให้หยุดคุณจะไปทำลายคนที่ทำมาหากินหาเช้ากินค่ำได้อย่างไร ตรงนี้สมคิดกลับมองไม่เห็นมองว่าเข้าซีพีดีกว่าเข้าปตท.แล้วสมคิดก็ไม่สามารถลงไปแก้ปัญหาพลังงานได้ เพราะวันนี้ปัญหาพลังงานยังไม่มีใครลงไปแก้ทั้งระบบ ยังปล่อยให้ปตท.ยังปล่อยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นเจ้าแห่งพลังงาน กำหนดทิศทางของพลังงานซึ่งไม่ใช่ เพราะพวกนี้เป็นพวกหวงอำนาจตัวเองเคยชินกับการผลิตไฟฟ้าสร้างโรงไฟฟ้าแล้วพวกนี้ไปเข้าใจตัวเองผิด ว่าได้รับบัญชาจากสวรรค์มาว่าต้องรับผิดชอบเรื่องไฟฟ้าในประเทศไทย พวกนี้เข้าใจผิดเลยนะ ไม่มีพวกผมทำประเทศไทยมีไฟฟ้าได้อย่างไร เพราะฉะนั้นพวกผมทำพวกผมจะสร้างเขื่อนอย่างเดียว สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ถ่านหินทุกอย่าง พวกนี้เป็นพวกเข้าใจผิดว่าได้รับบัญชาจากสวรรค์มานี่คือปัญหาใหญ่ของชาติซึ่งตรงนี้ประยุทธ์ไม่รู้เรื่อง ประยุทธ์ฟังฝ่ายนั้นฝ่ายเดียวแล้วบอกเอาเถียงกันนั่งคุยกันใช้วิธีนี้วิธีเดียวซึ่งถ้าเป็นนายกฯที่กล้าตัดสินใจต้อง เข้าใจข้อมูลและเชื่อข้อมูลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้วฟังธงไปเลย"

"คืออย่างนี้ปตท.นี่ต้องถือว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลถือหุ้นเกิน 50 เปอร์เซนต์ เมื่อเป็นรัฐวิสาหกิจแล้วมิสชั่นของปตท.ที่มีมาดั้งเดิมคืออะไร ต้องชัดเจนตรงนั้น เมื่อมิสชั่นมาคือต้องรักษาเสถียรภาพของพลังงานในราคาที่ถูกให้ประชาชนใช้พลังงานในราคาที่ถูกตรงนี้ มันต้องยืนตรงนี้ ไม่ใช่ปตท.มาอ้างว่าตอนนี้ธุรกิจน้ำมันมันกำไรน้อยลง มันก็เลยย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรกที่ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์คุณเข้าไปทำไม เพื่ออะไร สรุปแล้วคุณเข้าไปเพื่อทำมาหากินใช่มั้ยเพื่อให้ประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นเท่านั้นใช่มั้ย แล้วคนที่ได้49เปอร์เซนต์คือเอกชน นอมินีของนักการเมือง 51เปอร์เซนต์ของรัฐบาลเพราะฉะนั้นแล้วนี่คุณก็จากเดิมที่คุณไปคิดราคาน้ำมันแพงคุณฆ่าคนใช้น้ำมันวันนี้น้ำมันราคามันตกลงมาคุณคิดแพงแบบเดิมไม่ได้ คุณก็เริ่มจะมาฆ่ารากหญ้า เพราะฉะนั้นปตท.คือฆาตกรที่อำมหิตและโหดเหี้ยมที่สุด แล้วยังมีเรื่องการผูกขาดโรงงานขยะที่กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบประยุทธ์ก็ยังไม่ลงไปแตะเหตุผลก็เพราะคนที่คุมคือรุ่นพี่ตัวเองพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แล้วปรากฎว่าลูกชายของพล.อ.อนุพงษ์มีบทบาท

No comments:

Post a Comment